"Open to Work" กับ "Providing Services" ต่างกันยังไง?

หลายคนอาจเคยเห็นกรอบเขียว "Open to Work" และ "Providing Services" บน LinkedIn แล้วสงสัยว่ามันต่างกันอย่างไร ควรใช้ตัวไหนให้เหมาะกับเป้าหมายของเรา? วันนี้มีคำตอบ!


1. "Open to Work" คืออะไร?


ฟีเจอร์นี้เหมาะสำหรับคนที่กำลังหางาน โดยสามารถตั้งค่าให้ Recruiter หรือคนทั่วไปเห็นว่าคุณพร้อมสำหรับโอกาสใหม่ ๆ ได้ สามารถกำหนดตำแหน่งงานที่ต้องการ พิกัดที่สนใจ และประเภทของงาน (Full-time, Part-time, Remote) ได้


2. "Providing Services" คืออะไร?


เหมาะกับ ฟรีแลนซ์ หรือคนที่ต้องการให้บริการ เช่น ที่ปรึกษา, นักเขียน, นักออกแบบกราฟิก สามารถระบุประเภทของบริการที่ให้และเปิดรับลูกค้าได้ง่ายขึ้น


ควรใช้แบบไหน?


หากกำลังหางานประจำ → ใช้ "Open to Work"


หากต้องการหาลูกค้าหรือรับงานฟรีแลนซ์ → ใช้ "Providing Services"


ถ้าทำได้ทั้งสองอย่าง → ใช้ได้ทั้งสองฟีเจอร์พร้อมกันเลย!


การตั้งค่าให้เหมาะสมจะช่วยเพิ่มโอกาสให้คุณพบเจอกับงานหรือโอกาสทางธุรกิจที่ตรงกับเป้าหมายของคุณมากขึ้น


ติดตาม Job ดีดี ได้ที่

TikTok - www.tiktok.com/@pee_ja_aey

Youtube - https://www.youtube.com/@careercoaching9280

IG - https://www.instagram.com/peejaaey/

Website - https://www.jobdeedee.net/

.

บริการของ Job ดีดี

สอบถาม ปรึกษาฟรี LINE@ - @resumedd

เทคนิคการตอบคำถามสัมภาษณ์งาน ฟรี - https://lin.ee/9a0Gdix

.

ติดต่องานหรือลงโฆษณา

Inbox - https://lin.ee/y5WnIsK

Email - resumedeedee@gmail.com


#Jobดีดีครบเครื่องเรื่องสมัครงาน #Jobดีดี #พี่จ๊ะเอ๋กูรูสัมภาษณ์งาน #รับทำเรซูเม่ #พี่จ๊ะเอ๋careercoaching

#งาน #ชีวิตที่ใช่ #ค้นหาตัวเอง #การทำงาน #เรซูเม่ #interviews #interview #HR #พนักงานออฟฟิศ #เคล็ดลับการทำงาน #สัมภาษณ์งาน #สัมภาษณ์ #ไลค์มาไลค์กลับ #ไลค์มาไลค์กลับทุกคน